เชียงใหม่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับการจัดงานแต่งงาน (Destination Wedding) ไม่ว่าจะเป็นงานในสวนสไตล์อังกฤษ หรือรีสอร์ตริมแม่น้ำปิง สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้ดูโรแมนติกและดู “แพง” ขึ้นได้ ก็คือการตกแต่งด้วยลูกโป่งครับ แต่จะจัดยังไงไม่ให้ดูเลอะเทอะ? มาดูเคล็ดลับกัน
ทำไมต้องใช้ลูกโป่งในงานแต่งงานยุคใหม่?
หมดยุคซุ้มดอกไม้พลาสติกแข็งๆ แล้วครับ เทรนด์โลกตอนนี้หันมานิยม Organic Balloon Garland หรือซุ้มลูกโป่งรูปทรงอิสระที่เลียนแบบธรรมชาติ ผสมผสานกับใบไม้จริงหรือดอกไม้สด ซึ่งเข้ากับบรรยากาศเมืองเหนือของเชียงใหม่มากๆ

(หากสนใจไอเดียเพิ่มเติม: ลองดูบอร์ดรวมเทรนด์งานแต่งงานได้ที่ [Pinterest])
3 จุด Check-in ในงานแต่ง ที่ต้องมีลูกโป่ง!
ถ้าคุณกำลังวางแผน จัดงานแต่งในสวน ที่เชียงใหม่ นี่คือ 3 จุดที่ควรวาง ลูกโป่งงานแต่ง ไว้ครับ:
- Welcome Sign: ป้ายต้อนรับหน้างาน ประดับด้วยลูกโป่งสี Earth Tone เล็กน้อย จะช่วยลดความแข็งของป้ายและดูเชิญชวนแขกเหรื่อ
- Backdrop ถ่ายรูป: ลองเปลี่ยนจากฉากไวนิล เป็นกำแพงลูกโป่งไล่เฉดสี (Ombre Wall) รับรองว่าแขกต่อคิวถ่ายรูปยาวเหยียด
- ช่วงเปิดตัว/After Party: ใช้ลูกโป่ง Jumbo Balloon ขนาด 36 นิ้ว ให้บ่าวสาวถือตอนเดินเข้างาน หรือใช้ลูกโป่ง LED ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้เพื่อความสนุกสนาน
(Image Caption: งานแต่งงานกลางแจ้งในสวนที่เชียงใหม่ ตกแต่งด้วยซุ้มลูกโป่งสีขาวและเขียวมะกอก แซมด้วยใบไม้จริง ดูเป็นธรรมชาติ)
เคล็ดลับถ่ายพรีเวดดิ้ง (Pre-wedding) ที่เชียงใหม่ให้ปัง
สำหรับคู่รักที่มาถ่าย ลูกโป่งพรีเวดดิ้ง ที่เชียงใหม่ ไม่ว่าจะขึ้นดอยหรือไปอ่างแก้ว
- พร็อพต้องเบา: การขนย้ายในพื้นที่ธรรมชาติควรเน้นความคล่องตัว ลูกโป่งฮีเลียมสัก 1-2 ใบใหญ่ ก็เอาอยู่แล้วครับ
- รักษ์โลก: สำคัญมาก! หากถ่ายทำในพื้นที่ธรรมชาติ ระวังอย่าปล่อยลูกโป่งลอยขึ้นฟ้า เพราะจะเป็นขยะตกค้าง แนะนำให้ใช้ลูกโป่งที่มีตุ้มถ่วงน้ำหนักเสมอและเก็บกลับมาทิ้งให้ถูกที่ครับ
สรุป
เชียงใหม่มีโลเคชั่นสวยๆ เยอะมาก แค่เพิ่มลูกโป่งดีไซน์เก๋ๆ เข้าไป ก็ช่วยยกระดับงานวันสำคัญของคุณให้น่าจดจำยิ่งขึ้น หากใครกำลังมองหาทีมงานมืออาชีพในเชียงใหม่ที่เข้าใจสไตล์งานแต่ง ดูผลงานของเราได้ที่ [Gallery]




